รถสุดไฮเทค รถยนต์ที่ทันสมัย มากที่สุดและยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

รถสุดไฮเทค รนยนต์ในปัจจุบันนี้ ถือว่าเป็น รถยนต์ที่ทันสมัย โดยได้มีการพัฒนาให้เป็นรถยนต์เพอร์เฟ็คที่สุด และตอบสนองความต้องการ ของผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะมีรถที่ใช้พลังงาน ไฮโดรเจน หรือเรียกว่า เอฟซีอีวี ถ้าหากเปรียบเทียบกับ รถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้พลังงาน ด้วยแบตเตอรีลิเทียมไอออนแล้ว ทุกคนก็จะใช้รถยนต์ไฮโดรเจนมากกว่า ซึ่งรถยนต์ไฮโดรเจนนี้

เป็นได้มีการนำเอาเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาช่วยในการผลิต และยังมีการแรับเปลี่ยน ให้ไปใช้รถยนต์ที่เป็นมิตร กับสิ่งแวดล้อมโดยที่ ไม่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ แถมยังชาร์จแบตได้เร็วกว่า ในการชาร์จหนึ่งครั้ง

สามารถวิ่งได้ไกลกว่าด้วย เนื่องด้วยราคารถรุ่นนี้ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ยังมีราคาแพงอยู่มาก และไฮโดรเจนอันตราย ซึ่งจะสามารถติดไฟ และอาจระเบิดได้ง่าย ซึ่งไม่มีผู้เชี่ยวชาญบางคน ที่มีความเชื่อกันว่า ถ้าหากความต้องการของ

รถยนต์ไฮโดรเจนเพิ่มมากขึ้น ก็จะทำให้การผลิตไฮโดรเจน จะที่มีประสิทธิภาพกว่าเดิม ที่จะตามมาแบบธรรมชาติ ทางโตโยต้าจะมีการนำเอา รถบัสไฮโดรเจน ใช้งานบนท้องถนนของกรุงโตเกียว โดยในปัจจุบันนี้มี 15 คัน และจะเพิ่มเป็น 100 คัน

และทางโตโยต้าเคยกล่าวอีกว่า เมื่อผู้ใช้งานได้เห็นรถยนต์ พลังงานไฮโดรเจน ก็จะตระหนักว่าไฮโดรเจน ก็สามารถใช้เป็นส่วนหนึ่ง ในชีวิตประจำวันของคนเราได้ ถือว่าเป็นการพัฒนา ไปในทางที่ดีเพื่อให้เป็น รถยนต์ประสิทธิภาพสูง

ที่ใช้งานได้ดียิ่งขึ้น และไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม หวังว่าในไม่ช้าเราจะสามารถ ได้เห็นหรือได้ใช้กันแน่นอน กับรถยนต์สุดไฮเทคนี้ 

รถสุดไฮเทค ความสะดวกสบายและมีความล้ำยุคกับ รถทันสมัย ที่ถือว่ากำลังเป็นที่สนใจ 

ถ้าหากพูดถึง รถยนต์ล้ำยุค ถือว่าอีกไม่นานแล้ว ที่พวกเราจะได้เห็นกันซึ่ง รถแห่งอนาคต ที่มีความสะดวกสบาย โดยรถยนต์ยี่ห้อนิสสัน ได้ทีการพัฒนาด้วยเทคโนโลยี ที่มุ่งไปสู่การปฏิวัติความสัมพันธ์ ระหว่างรถยนต์กับผู้ใช้งาน

และเป็นรถยนต์ไร้มลพิษ ทำให้การใช้รถยนต์ ของคนในสังคมปัจจุบัน มีความปลอดภัยมากขึ้น และจะไม่เกิดอันตรายใดๆ และหนึ่งในเทคโนโลยีของ รถยนต์ต้นแบบนิสสัน ที่ได้มีการพัฒนาขึ้น จะเป็นรถยนต์ต้นแบบ ที่สามารถขับโดยอัตโนมัติ IDS

ซึ่งขับเคลื่อนได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องใช้ผู้ขับขี่ และได้มีการใช้พลังงาน จากไฟฟ้าจากแบตเตอรี ที่มีขนาด 60 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง ด้วยระบบขับขี่อัจฉริยะ ที่เป็นอัตโนมัติของนิสสันนี้ แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ ของนิสสันที่เชื่อว่า อเมริกันสปอร์ตพันธุ์ดุ

รถในโลกอนาคตจะเป็น ระบบที่ช่วยให้ผู้ขับขี่ ทั้งในการมองเห็น และช่วยในการตัดสินใจ ของสภาพการณ์ต่างๆ ของการขับขี่รถยนต์ และยังรวมถึงลดความผิดพลาด ที่เกิดขึ้นของมนุษย์ ที่เป็นสาเหตุของเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งมากกว่าร้อยละ 90

ทำให้มีประสิทธิภาพ ในการทำงานของรถ โดยจะมุ่งเน้นให้ให้ผู้ขับขี่ ให้มีความสุขสนุกสนาน กับการใช้รถบนท้องถนน โดยที่ไม่เป็นอันตราย และในระบบขับขี่อัจฉริยะ ของนิสสัน IDS จะเป็นการสื่อสารร่วมกัน ของระบบขับขี่ด้วยตนเอง

ที่สามารถเป็นจริงได้ และจะมีการสื่อสารระหว่าง รถยนต์และคนขับ รถสุดไฮเทค แต่ต้องมีการสื่อสารระหว่าง รถยนต์ในแต่ละคันด้วย เป็นการออกแบบของ ระบบขับขี่อัจฉริยะอัตโนมัติ IDS ที่เราจะได้ใช้ในเร็วๆนี้ 

รถยนต์ยุคใหม่ กับแอปพลิเคชั่นในการเชื่อมต่อ ในการปลดล็อคระบบต่างๆ 

เราจะเห็นได้เลยว่า รถยนต์รุ่นใหม่ๆ นั้น จะมีการใช้ระบบ Keyless กันเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นระบบสตาท โดยที่ไม่ต้องไปที่ รถสปอร์ตสวยๆ ที่ทีความสะดวกสบาย และในระบบที่พูดถึงนี้ ซึ่งจะช่วยให้รถยนต์ดูล้ำสมัย จากการใช้ปุ่มตัวสตาร์ท

ของเครื่องยนต์รุ่นใหม่ แทนการใช้กุญแจบิดเพื่อสตาร์รถ โดยรถยนต์จะมีการตรวจสอบ ว่ารีโมทอยู่ใกล้กับรถหรือไม่ ก่อนจะปลดล็อคระบบ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถ ใช้งานรถยนต์ได้มีประสิทธิภาพ ในทุกๆการใช้งาน และยังมีการนำเอนระบบ

Keyless ไปใช้กันด้วยสาเหตุ ในการช่วยการโจรกรรมรถยนต์ ที่ได้แพร่ระบาดในปัจจุปัน เพื่อเป็นการการดักจับ คลื่นของสัญญาณรีโมท ที่เชื่อมต่อกับรถยนต์ ด้วยปัญหาเหล่านี้ทำให้ แบรนรถยนต์ของเกาหลี ที่ทีชื่อเสียงอย่าง Hyundai

ได้มีการพัฒนาแอปพลิเคชั่น ในการเชื่อมต่อกับรถยนต์ เพื่อใช้ในการปลดล็อค ระบบต่างๆของ รถในอนาคต ซึ่งระบบดังกล่าวนี้ จะเป็นระบบเดียวกับที่รถยนต์ ของค่าย Tesla ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งระบบที่ทันสมัยนี้จะเป็น แอปพลิเคชั่นของมือถือ

พร้อมด้วยฟังก์ชัน NFC เมื่อรถยนต์เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนแล้ว จะช่วยให้เจ้าของสมาร์ทโฟนสามารถใช้งานฟังก์ชันต่างๆ ของรถยนต์ได้เฉกเช่นเดียวกับระบบ Keyless แต่ปลอดภัยกว่า เนื่องจากการดักสัญญาณ NFC จะต้องผ่านระบบความปลอดภัยของสมาร์ทโฟนแบบ Biometric

รถยนต์ไฮเทคสุดล้ำ ที่ทีความทันสมัยกับระบบตรวจสองความพร้อมของผู้ขับขี่

ระบบความปลอดภัย ของรถยนต์ในปัจจุบัน ก็ถือว่าดีในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังไม่ปลอดภัย 100 เปอร์เซ็น ซึ่งส่วนใหญ่จะเกินขึ้น ความผู้ชับขี่ด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะการดื่มสุรา ที่เป็นปัญหาหลักที่เกิดขึ้น อยู่ในทุกๆวันก็ว่าได้ ถึงแม้ว่ามีกฎหมาย

ที่ห้ามสำหรัวเมาแล้วขับ ก็ยังมีอยู่ในปัจจุบัน ด้วยเหตุดังกล่าวนี้ รถยนต์ยี่ห้อดัง ได้มีการนำเทคโนโลยี ที่มีความทันสมัยมาใช้ ในการทำระบบตรวจสอบ สมรรถนะของผู้ขับขี่ ซึ่งเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า อุบัติเหตุส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้น

ไม่ใช่เพียงในประเทศไทย และจะมีอยู่ในทั่วโลก โดยจะเกิดมาจากสมรรถภาพ ในการขับขี่ของผู้ใช้งาน ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ ไม่ว่าจะมาจากการผู้ขับขี้ ที่มีการพักผ่อนน้อย หรือว่าโรคประจําตัว และปัญหาที่แก้ไม่ได้ก็คือ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

โดยจะส่งผลให้สมรรถนะ ในการขับขี่ลดน้อยลง จนทำให้เกิดอุบัติเหตุ ที่เราได้เห็นอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งในเทคโนโลยีของยานยนต์ แห่งโลกอนาคตที่จะเกิดขึ้น จะสามารถตรวจสอบ ความพร้อมของผู้ขับขี่ ได้อย่างแม่นยำที่สุด ซึ่งระบบจะตรวจสอบว่า

ผู้ขับขี่จะมีความพร้อม ในการขับรถหรือไม่ ซึ่งแบรนด์รถยนต์ชื่อดังอย่าง Volvo และ GM ก็ได้มีการนำเทคโนโลยีนี้ มาใช้กับรถยนต์ปัจจุบัน โดยจะมีการติดตั้งกล้อง ไว้ภายในห้องโดยสาร สำหรับตรวจสอบความพร้อม ของผู้ขับขี่โดยจะผ่าน

การตรวจจับในตาดำ ซึ่งหากตรวจพบว่าผู้ขับขี่ มีการมองเห็นลดน้อยลง หรือหลับตาเป็นเวลานาน ทางระบบก็จะมีการเตือน ซึ่ง และถ้าหากว่าเตือน ผู้ขับขี่ยังไม่มีปฏิกิริยา ตอบสนองต่อหารขับขี่ ระบบก็จะหยุดรถทันที่ ถือว่าเป็นมีประโยชน์อย่างมาก สำหรับการขัยรถบรท้องถนน 

ความสามารถของ เทคโนโลยีรถยนต์ กับระบบการทำงานของนวัตกรรมแห่งอนาคต

หลายคนคงได้อ่านข่าว ที่เกี่ยวกับ รถยนต์ไร้คนขับ ที่จะทำให้เราสะดวกสบาย แถมยังลดอุบัติเหตุได้ ซึ่งรถยนต์ไร้คนขับนี้ ได้มีการนำเอาระบบ ปฏิบัติการขับเคลื่อนจะเรียกว่า ADSs หรือ Automated Driving Systems และระบบการขับเคลื่อน

ที่เป็นแบบอัตโนมัติ Advanced Driver Assistance Systems หรือ ADAS โดยจะเป็นเครื่องมือ ในการควบคุมการรถยนต์ หคือควบคุมผู้ขับขี่ โดยจะมีลักษณะที่ค้ายกับ ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ที่เป็นของเครื่องบิน ซึ่งระบบ ADAS

จะมีส่วนประกอบสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นระบบควบคุม ในการขับขี่แบบอัตโนมัติ และระบบขับเคลื่อน เพื่อให้หลีกเลี่ยงการชน หรือเกิดอุบัติเหตุต่างๆ แถมยังมีระบบช่วยจอด ซึ่งจะมีระบบการควบคุม การขับขี่รถยนต์บนทัองถนน และจะมีเซนเซอร์ต่างๆ

โดยจะมีการติดตั้งอยู่รอบรถ เพื่อให้สามารถตรวจสอบ สิ่งต่างๆที่อยู่ในระยะทาง ทั้งไกลและใกล้รถยนต์ โยจะมีระบบอัตโนมัติบางอย่าง ที่เครื่องรถยนต์จะทำงาน แต่มีการเร่งความเร็ว หรือการหมุนพวงมาลัย ซึ่งผู้ขับขี่ยังต้องมีส่วน

ในการควบคุมรถ หรือดูสภาพแวดล้อมรอบรถ และในระบต่อมาจะเป็น ระบบอัตโนมัติระดับสูง ซึ่งรถยนจะสามารถใช้งาน รถไร้คนขับ ในการขับขี่ทุกอย่างเอง แต่จะอยู่ภายใต้ในเงื่อนไข ที่กำหนดไว้ผู้ขับขี่ได้กำหนด และยังมีตัวเลือกให้สำหรับ

ผู้ขับขี่ควบคุมแทนได้ และระบบอัตโนมัติ ที่มีความสมบูรณ์แบบ โดยที่รถยนต์จะสามารถขับขี่ 5 อันดับรถแพง ได้ด้วยตัวเอง โดยที่เราไม่ต้องเป็นคนขับ เพียงแค่กำหนดจุดหมายเท่านั้น

รถในอนาคต