Dodge Charger รถอเมริกันมาสเตอร์คาร์ที่ได้ชื่อว่าเป็นรถยนต์ที่แรงที่สุดในโลกในยุค 60 มีดีอย่างไร ?

Dodge Charger เชื่อว่าหลายๆท่าน คงรู้จักกันดีอยู่เเล้ว กับรถยนต์คู่ใจของ วินดีเซล และเเน่นอนว่า ภาพลักษณ์ ของภาพยนต์เรื่องนี้ ทำให้หลายๆคน เริ่มค้นหา ข้อมูลของมัน ว่ารถอเมริกันมาร์เตอร์คาร์คันนี้ มีจุดเริ่มต้น และที่มาของมัน เป็นอย่างไร ซึ่งเเน่นอนในวันนี้

เราก็จะมาอธิบาย ให้ทุกคนได้รู้จัก กับต้นกำเนิดของ สุดยอดรถยนต์อเมริกันมาร์เตอร์คาร์คนันนี้ มีที่มาอย่างไร และทำไมในตอนนี้ ถึงมีคนต้องการ ที่จะครอบครองมันอย่างมากที่สุด มาติดตามกัน กับในวันนี้ ที่เราจะมาอธิบาย เกี่ยวกันข้อมูล การริเริ่มการสร้างรถDodge Charger รถอเมริกันมาร์เตอร์คาร์ ที่เเรงที่สุดในยุค 60 มาดูกันครับ รถอเมริกัน

Dodge Charger หนึ่งในรถอเมริกัน Master Car ที่คลาสสิคที่สุด

รถสปอร์ต อเมริกัน เรียกได้ว่า เป็นหนึ่งในรถยนต์ ที่สร้างออกมา เพื่อที่จะออกมาสู้ กับรถยนต์ของค่าย Ford ซึ่งในปีนั้นต้องบอกเลยว่า ทางค่ายรถยนต์ของ Ford ผลิตรถยนต์ออกมา อยู่หลายรุ่นด้วยกัน เเต่รถยนต์รุ่นที่ ทำยอดขาย ได้มาที่สุดในยุคนั้น ต้องยกให้กับรุ่น Ford Mustang ฟอร์ด มัสแตง ซึ่งในยุคนั้น

หากใครที่ได้ครอบครอง เจ้ารถยนต์รุ่นนี้ ถือว่าเป็นคนที่มี Lifestyle ในการใช้ชีวิต ที่ดูเท่ห์สุดๆ หากเปรียบเทียบกับในยุคนี้ ก็ต้องบอกเลยว่า เหมือนกับอารมณ์ คนที่มีรถสปอร์ท 2 ประตูรุ่นใหม่ ที่มีทั้งความเท่ และดูหรูแบบสุดๆ ซึ่งในยุคนั้นต้องบอกเลยว่า ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่อย่างFord

ถือได้ว่าประสบความสำเร็จ และมียอดขาย คลองตลาดยานยนต์ ของรถอเมริกา มียอดขายรวมกว่า 1 ล้านคันในปีเดียว นั้นจึงทำให้ หนึ่งในค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ์ของอเมริกาอย่าง Chrysler. ได้เปิดProject ใหม่ที่จะสร้างรถยนต์รุ่นใหม่ เพื่อมาเป็นคู่เเข่ง ทางการตลาด โดยมีคอนเซปว่า ต้องเป็นรถยนต์ ที่ใช้งานดี และต้องเเรง ดีไซส์โฉบเฉียว และต้องโดนใจ กลุ่มลูกค้า ที่ต้องการครอบครองทุกคน. 

Dodge Charger เรื่องราวความเป็นมาของหนึ่งในบริษัทค่ายรถยนต์ชื่อดังในอเมริกา

รถอเมริกันมีชื่อเสียง ซึ่งก็ใช้ระยะเวลาเพียงไม่นาน ทางต้นสังกัด ก็ได้เปิดบริษัทลูกขึ้นมาใหม่ ในชื่อแบรน์ รถยนต์Dodge และรุ่นรถยนต์รุ่นเเรก ที่ได้เปิดตัวในแบรน์นี้ มีชื่อรุ่นว่า dodge polara โดยผลิตออกมาจำหน่ายในปี 1960 ซึ่งต้องบอกเลยว่า ในรุ่นเเรกที่ออกมา ทำยอดขายได้น้อยมาก

อาจจะเพราะว่า เปิดตัวใหม่หรือไม่เเน่ ก็ยังไม่โดนใจผู้บริโภค จึงทำให้ยังไม่สามารถ ที่ทำยอดขายได้ดีมากนัก ซึ่งทางผู้บริหารก็ได้เข้าใจ ถึงเหตุผลักการต่างๆ เหล่านี้ จึงสั่งให้ฝ่ายพัฒนาคิดค้นรุ่นต่อไป ในทันที ซึ่งก็ไม่นานมากนัก ได้ผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ ออกมาเพิ่มอีกหนึ่งตัว

โดยมีการใช้โครงสร้างดีไซต์ของตัวเก่า นำมาปรับเปลี่ยนให้เป็นรูปทรงใหม่ โดยมีชื่อรุ่นที่ 2 ว่าdodge Chargerโดยมีการเพิ่มขนาด ของเครื่องยนค์ให้มี กำลังเเรงม้า ที่สูงยิ่งขึ้น โดยได้ใส่เครื่องยนต์ V8 ลูกสูบขนาด 6.3 ลิตร. เเต่ในรุ่นนี้ก็ยังไม่ได้ ทำการวางจำหน่าย

เป็นการผลิตออกมา เพื่อทำการตลาด โดยทดลองดูค่าความนิยม ของกลุ่มผู้บริโภค เพราะในสมัยนั้น รถยนต์ที่มีชื่อเสียง สร้างยอดขายดี และเป็นที่ยอมรับ ของคนในยุคนั้น ส่วนมากจะเกิดจากการ ที่ทำรถออกมาเพื่อลงเเข่ง ในสนามเเข่งรถที่ใหญ่ที่สุด ในอเมริกา. รถแข่งอเมริกัน

Dart chargercar รถอเมริกันมัสเซิลคาร์iรุ่นแรก GT

รถอเมริกันแรงๆ และเเน่นอนว่า ในเวลาต่อมา หลังจากที่ทางค่าย ได้ทดสอบความนิยม ทางการตลาดของรถสปอร์ตขนาดเล็กเรียบร้อยเเล้ว ก็ได้ผลิตรถยน์รุ่นเเรกออกมา เพื่อวางขายจำหน่ายจริง ซึ่งได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 1965 DartCharger(GT). โดยทางการตลาดของค่าย ก็คาดหวังอย่างมากที่จะสร้างยอดขาย

ให้กับบริษัทได้เป็นจำนวนมาก เเต่ก็ไม่เป็นดังหวัง เพราะในปีเเรก ที่ได้ผลิตว่าจำหน่ายนั้น บริษัทยังไม่สามารถ เเย้งส่วนเเบ่ง ทางการตลาดได้มากเลย โดยขายไปได้เเค่เพียง 150 คันเท่านั้น. ซึ่งเเน่นอนว่า ทางต้นสังกัตก็ไม่ย้อท้อ สั่งพัฒนาเดินหน้าต่อ เพื่อที่จะทำให้ยอดขายของรถ ได้มากยิ่งขึ้นนั้นเอง 

รถยนต์คู่ใจ ดอมินิค โทเรทโต้ รถยนต์ที่สร้างชื่อเสียงให้กับบริษัทมากที่สุด

รถอเมริกันที่เเรงที่สุด และในปี1966. ก็ได้ผลิตรุ่นใหม่ออกมาอีกหนึ่งรุ่น ซึ่งในรุ่นนี้ มีชื่อเรียกว่าCharger 1996 สำหรับรุ่นนี้ ได้ปรับเปลี่ยนการดีไซส์ของรถใหม่ทั้งหมด เพื่อให้ภาพลักษณ์ ดูเป็นรถสปอร์ทมากยิ่งขึ้น และเพื่อให้โดนใจ ผู้บริโภคทุกคนในยุคนั้น ซึ่งก็ไม่พลาดที่จะ ผลิตรถออกมา โดยมีเครื่องยนต์ใหม่ เป็นเครื่องยนต์ขนาดลูกสูบ 7 ลิตร เป็นเครื่อง V8 Hemi สร้างกำลังเเรงม้าได้สูงสุดอยู่ที่ 425 เเรงม้า เป็นรุ่นเครื่องยนต์ ที่ใหญ่ที่สุดในรุ่นนี้

และก็เเน่นอนว่า ในรุ่นนี้เริ่มสามารถ สร้างยอดขายได้เพิ่มมากขึ้น โดยสรุปยอดขาย ในปีเดียวสามารถ ทำยอดขายไปถึง 40,000 คัน ความโดดเด่นของรถรุ่นนี้ คือด้านหน้าของกระจังหน้า ที่ทำออกมา ให้เหมือนไม่มีไฟ ในเวลากลางวัน แต่สามารถ เลื่อนขยับขึ้นได้ เพื่อเปิดโฉมหน้า ของไฟส่องสว่างของด้านหน้า ได้ดีไซส์ทันสมัย และทำออกมา ได้ดียิ่งขึ้นนั้นเอง และยังมีข้อดี ในเรื่องของ การช่วงในการ บำรุงรักษา โครมไฟด้านหน้า

ไม่ให้เสื่อมสภาพ ได้เร็วยิ่งขึ้น และในจุดนี้ก็ถือว่า เป็นจุดเด่นหลักๆ ที่ทำให้วงการตลาด รถยนต์อเมริกา เริ่มรู้จักค่ายของเขา มากยิ่งขึ้นนั้นเอง แต่ถึงกระนั้น ทางบริษัทก็มองว่า ยังมีความห่าง ด้านยอดขายอยู่มาก หากนำมาเปรียบเทียบ ในรถตะกูลเดียวกัน รถสปอร์ตขนาดเล็ก ของค่ายคู่เเข่งรุ่นฟอร์ดมัสแตงแล้ว ก็ยังมียอดขายที่ห่างมาก แต่ก็ว่าได้ความสำเร็จ มาถึงขั้นนึงเเล้ว

จึงเดินหน้าผลิตต่อสร้าง Generation 2 ผลิตออกมาวางจำหน่ายในปีนี้ 1968 แต่ยังคงใช้ชื่อรถรุ่นเดิม Charger#2 โดยในรุ่นนี้ ผู้ดีไซน์ได้นำ หลักการของโค้ก เพื่อนำมาใช้ ออกแบบรถยนต์ รุ่นของปีนั้น1968. หลักการที่มีชื่อว่า Coke bottle Stัying สไตล์นิยม

หรือก็คือ การนำค่านิยม ของผู้บริโภค นำมาปรับเปลี่ยน และเพิ่มเอกลักษณ์เฉพาะตัว ของแบรนด์ตัวเอง. ซึ่งทำให้ประสบความสำเร็จ กลับบริษัทเป็นอย่างมาก ยอดขายในปีเดียวสามารถทำได้ไปถึง 200,000 คันทั่วอเมริกา. และในรถรุ่นนี้ ได้รับฉายาว่า เป็นรถยนต์จากทางค่ายDodge

ที่สวยและมีเสน่ห์มากที่สุด ในบรรดารถตระกูลนี้ สำหรับ Generation ที่ 2 ได้วางขายจำหน่ายตั้งแต่ปี 1968 ถึง 1971หรือเป็นรถ รุ่นที่ขายดีที่สุด และสร้างชื่อเสียงให้กับ ทางค่ายมาที่สุด จนเป็นที่จดจำ ของคนทั่วโลก ไปในโดยทันที 

เที่ยวใกล้กรุงเทพ