Dodge Chargerความเป็นมาของรถยนตร์ยุค 70-80 เป็นอย่างไรบ้าง ?

Dodge challenger. รถยนต์ที่ถือว่าผู้ชายลายๆคน ใฝ่ฝันว่าจะมีไว้ซักคัน เนื่องความความสวยงาม และความแรงของเครื่องยนต์ จึงทำให้เป็น รถอเมริกันยอดนิยม นั่นก็คือDodge Charger ประวัติและความเป็นมาของ รถสายพันธุ์อเมริกัน ได้ผลิตขึ้นครั้งแรกในปี 1966 จนมาถึงในปี 1978

และรุ่นที่ได้รับความนิยม จะอยู่ในช่วงของปี 1968-1970 เพราะมีลักษณะเป็น B-Body ที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละปี ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งในปี 1968 จะมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น ก็จะเป็นไฟท้ายที่กลม ซึ่งคล้ายกับ SKYLINE โดยถือว่ามีรูปทรงที่ สวยที่สุดในบรรดา B- Body และได้มีการเปลี่ยนไฟท้าย

ให้เป็นแบบแถวยาว และกระจังหร้าก็เปลี่ยน ให้มีความดุและดูเท่มากขึ้น จึงทำให้ Chargerเป็นอันดับหนึ่งของ คนอเมริกันเลยทีเดียว ด้วยการเป็นที่นิยมนั้น ก็ได้มีการจัด Duke of Hazzard Festival ขึ้นเป็นประจำทุกๆปี และDodge Chargerก็นำมาใช้เป็นตัวเอก ในหนังเรื่อง Fast & Furious

ที่หลายคนรู้จักกันดี จนทำให้ผู้ชมทั่วโลก ต้องชื่นชอบรถอเมริกัน โดยในปี 1970 ถือว่าเป็น Minor Changeตัวสุดท้ายของ B-Body Version และได้ออกเจ้าตัวใหม่ มาในปี 1971 และเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม 

ยุคแห่งความรุ่งรืองที่ Dodge challengerได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก 

ยุคสมัยรุ่งเรือง ของDodge Chargerก็จะคงต้องพูดถึงในรุ่น Daytona ซึ่งถือว่รถรุ่นพิเศษ เพราะในรุ่นนี้เป็นรถที่ สร้างขึ้นมากจากแพลทฟอร์ม ของCharger เพื่อที่จะนำไปแข่งขัน ในรายการ NASCAR ที่จัดขึ้นในสนาม Daytona 500 ที่มีชื่อเสียงโด่งดังอย่างมาก คาดิลแลค

Dodge

และผลการแข่งขันที่ออกมาCharger Daytona ก็สามารถเอาชนะคู่แข่ง ได้แบบไม่เห็นฝุ่นเลยทีเดียว จนทำให้ถูกห้ามแข่งขัน ในรายการไปในเวลาต่อมา เพื่อไม่ให้การแข่งขันนั้น ชนะคู่แข่งคนอื่นๆแบบง่ายๆ และรุ่นนี้เป็น Chargerในเจนสองที่ได้นำไป เป็นรถคู่ใจของ Dominic Toretto ในภาพยนตร์เรื่อง Fast & Furious 

จากการนำไปใส่ในภาพยนตร์ ช่วยให้ยืนยันได้เลยว่า  มีความโดดเด่นอย่างมาก และภาพลักษณ์ที่ออกมานั้น ก็แสดงถึงความเป็น รถซิ่งอเมริกันยุค 70 ไม่แพ้รถชื่อดังอย่าง Mustang เลยก็ว่าได้ และหลังผ่านยุครุ่งเรือง Chargerก็ได้มีการออกเจนที่ 3 มาในปี 1971

และปรับการออกแบบ ที่ยังคงใช้ Coke Bottle Styling เป็นหัวใจหลักในการออกแบบ แต่รถมีส่วนโค้งมากขึ้น ทำให้รถมีความดุดันน้อยลง แต่ในส่วนของเครื่องยนต์ ก็ยังคงใช้เป็นเหมือนเดิม ที่เหมือนกับเจน 2  ของ รถยนต์เครื่อง v8

รถอเมริกันอัพเดท หลังจากที่ห่างหายไปนานถึงห้าปีจนประสบความสำเร็จอีกครั้งตั่งแต่ปี 2011 จนถึงปัจจุบัน

หลายคนต้องรุ้จักกับDodge Chargerหลังจากที่ได้กลับมา ประสบความสำเร็จ อีกครั้งDodge Chargerก็อยากที่จะพัฒนาให้ รถรุ่นนี้มีความเป็นมัสเซิลคาร์ มากขึ้นไปกว่าเดิมอีก เขาจึงนำการออกแบบในเจน 6 มาปรับปรุงหลายๆจุด และมีจุดเด่นนั้นก็คือ ไฟท้ายที่เป็นรูปแบบใหม่ Tesla

โดยใช้ไฟ LED คาดยาว เหมือนกับรถยุค 1968-1970 และมาเป็นรถในเจนที่ 7 ที่ยังคงสามารุทำยอดขาย ได้ดีอย่างต่อเนื่องจนในปี 2014Dodge Charger ก็ได้มีเปิดตัวCharger Minorchange รุ่นนี้เป็นการออกแบบหน้ารถยก ที่ระดับความสปอร์ต มากขึ้นไปกว่าเดิมอีก

พร้อมกับออกรุ่นพิเศษอย่าง SRT Hellcat ที่ทำขึ้นมาเพื่อเอาใจชาว Drag Race ด้วยเครื่องยนต์ V8 ขนาด 6.2 ลิตรและ 707 แรงม้า ทำให้Charger SRT Hellcat ด้วยความแรง 1/4 ไมล์ และทำเวลาได้เพียงแค่ 11 วินาที และยังเป็นรถที่สามารถ ทำท็อปสปีดสูงทึ่สุด ได้ถึง 328 กิโลเมตร/ชั่วโมง และนับตั้งแต่นั้นมาDodge Chargerก็กลายมา รถขวัญใจขาซิ่งอเมริกัน

dodge. challenger ปี 2018 มาพร้อมกับเครื่องยนต์ V8 เดิมๆ ที่ทรงพลังที่สุดในโลก

รถอเมริกันมีชื่อเสียง Dodge.Chargerได้มีการเปิดตัวChallenger SRT Demon ในวันที่ 12 เมษายน ปี 2018 โดยมีเครื่องยนต์ V8 HEMI ขนาด 6.2 ลิตร Hellcat และได้มีการเปลี่ยนชื่อรหัสเป็น Demon ซึ่งขุมพละกำลังที่ปล่อยออกมา

Dodge

จึงมีผลให้Challenger SRT Demon เป็นรถเครื่องยนต์ V8 แบบเดิมๆ ที่ทรงพลังที่สุดในโลก โดยเครื่องยนต์ V8 Demon  เป็นบล็อคที่ผลิตกำลังได้ถึง 840 แรงม้า HP. และทำอัตราเร่งได้ถึง 0-30 ไมล์ / ชั่วโมง หรือประมาณ 48 กิโลเมตร ภายใน 1 วินาทีท0-60 โดยใช้ความเร็วสูงสุด

ในขณะนั้นอยู่ที่ 225 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งตังรถสามารถสร้างแรงดึง ได้มากถึง 1.8 g ในขณะที่ใช้ความเร็ว ถือว่าสูงที่สุดในรถยนต์ เดิมๆจากโรงงานโดยที่ ไม่ได้มีการโมดิฟายเพิ่มเติม และในขณะที่ออกตัวนี้นั้น ก็ได้รับการบันทึก

โดย Guinness World Records และนอกจากสถิติแล้ว ยังสร้างสถิติใหม่อีก 1 อย่างหนึ่งนั่นคือ เป็นรถที่ผลิตออกมาที่ สามารถยกล้อในขณะออกตัว ได้ในระยะทาง 2.92 ฟิท หรือประมาณ 0.8 เมตร CHEVROLET

อัพเดทเปิดตัวรุ่นใหม่ล่าสุดในปี 2020 นี้

DodgeDodgeรุ่นล่าสุด ได้มีการเปิดตัว ที่เป็นตัวถังแบบไวด์บอดี้ ที่จะทำให้รถมีลักษณ์ที่ แตกต่างออกไปจากเดิมอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้าใหม่ ซุ้มล้อที่ได้ขยายให้ใหญ่ขึ้น อีกทั้งยังมีสเกิร์ตข้าง ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ มาพร้อมกับล้ออลูมิเนียม ขนาด 20 นิ้ว

และยังมีการปรับแต่งช่วงล่าง และได้อัพเกรดในส่วนอื่นๆ อีกเล็กๆน้อยๆ และในเรื่องของขุมพลัง ในรุ่น R/T Scat Pack ได้มีการติดตั้งเครื่องยนต์ V8 เวยขนาด 6.4 ลิตร ที่ให้กำลังถึง 491 แรงม้า โดยมีแรงบิดอยู่ที่ 643 นิวตันเมตร และในรุ่น SRT Hellcat

จะเป็นเครื่องยนต์ V8 ด้วยขนาด 6.2 ลิตร โดยมีซูเปอร์ชาร์จที่ให้กำลังได้ถึง 808 แรงม้า ด้วยแรงบิด 957 นิวตันเมตร และสามารถทำอัตราเร่งได้ 0-96 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายใน 3.4 วินาที ก่อนไปถึงท็อปสปีดที่ 326 กิโลเมตร/ชั่วโมง

 

Ford

ที่เที่ยวเอเชียราคาถูก